
โรคเส้นประสาทตาอักเสบ (Optic Neuritis)
โรคเส้นประสาทตาอักเสบคืออะไร?
เส้นประสาทตา (optic nerve) ประกอบด้วยเส้นใยประสาทจำนวนมากที่เชื่อมต่อระหว่างจอประสาทและสมองส่วนที่ควบคุมการมองเห็น จึงเป็นเส้นประสาทที่สำคัญสำหรับการมองเห็น โดยเส้นประสาทตาแต่ละข้างจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณภาพจากตาข้างเดียวกันไปยังสมอง ทำให้เรามองเห็นได้
เส้นประสาทตาอักเสบ (optic neuritis) คือภาวะที่เส้นประสาทตามีการอักเสบส่งผลให้มีการเสื่อมของปลอกที่หุ้มเส้นประสาทตา ทำให้การนำสัญญาณประสาทจากตาข้างนั้นไปยังสมองเกิดความผิดปกติ ส่วนใหญ่การอักเสบมักเป็นข้างเดียวมากกว่าสองข้าง
อาการของโรคเส้นประสาทตาอักเสบ
- ปวดตา เวลากลอกตาอาจจะปวดมากขึ้น ผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการปวดตา
- ตามัว มักเกิดขึ้นค่อนข้างเร็วในเวลาเป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน ส่วนใหญ่อาการตามัวจะแย่ลงเรื่อย ๆ ระดับที่มัวเป็นไปได้ตั้งแต่มัวเล็กน้อยไปจนถึงมากขนาดมองเห็นแค่แสงลาง ๆ หรือมองไม่เห็นแสงได้ ตำแหน่งที่มัวเป็นไปได้หลายแบบ เช่น มัวทั้งภาพ มัวตรงกลาง มัวครึ่งบนหรือครึ่งล่างของภาพ
- มองเห็นสีจางลง โดยเฉพาะสีแดง
สาเหตุของโรคเส้นประสาทตาอักเสบเกิดจากอะไร?
- ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ภาวะที่ร่างกายมีการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาผิดปกติแล้วไปทำให้เส้นประสาทตาและปลอกที่หุ้มเส้นประสาทตาอักเสบ เช่น โรคทางระบบประสาทบางกลุ่ม ได้แก่ โรค multiple sclerosis (MS), โรค neuromyelitis optica (NMO), โรคที่มีความสัมพันธ์กับการสร้างภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนที่อยู่ที่ปลอกหุ้มเส้นประสาทชื่อ myelin oligodendrocyte glycoprotein (MOG)
- ไม่ทราบสาเหตุ
- การติดเชื้อ ได้ทั้งจากเชื้อแบคทีเรีย เช่น ซิฟิลิส วัณโรค ไวรัส เช่น งูสวัด เริม หัด คางทูม เชื้อรา เป็นต้น
- อื่นๆ ได้แก่ โรคแพ้ภูมิตนเอง เช่น SLE ยาบางอย่าง เช่น ยารักษาวัณโรค ethambutol เป็นต้น
การวินิจฉัยโรคเส้นประสาทตาอักเสบ
- ทดสอบความสามารถในการมองเห็นลดลง (visual acuity)
- การทดสอบการมองเห็นสีผิดปกติ
- การทดสอบลานสายตาผิดปกติ
- การตรวจพบการตอบสนองของรูม่านตาผิดปกติ (relative afferent pupillary defect/RAPD)
- อาจตรวจพบขั้วประสาทตาบวมในผู้ป่วยบางราย รวมถึงการตรวจตาไม่พบสาเหตุอื่น ๆ ที่อธิบายอาการตามัวได้
- ส่งทำเอกซ์เรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพร้อมฉีดสารทึบรังสีตรวจส่วนของเบ้าตา สมอง และอาจรวมไขสันหลังในผู้ป่วยบางรายจะพบมีการบวมของเส้นประสาทตา สัญญาณของเส้นประสาทตาผิดปกติ และจะเห็นสารทึบรังสีได้ชัดผิดปกติในส่วนที่มีการอักเสบของเส้นประสาทตา
แนวทางการรักษาโรคเส้นประสาทตาอักเสบ
- ตรวจหาสาเหตุโรคเส้นประสาทตาอักเสบ ได้แก่ เจาะเลือด เอกซ์เรย์ปอด เจาะน้ำไขสันหลังโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคนี้ครั้งแรก
ระยะแรก
1. การให้ยาสเตียรอยด์ขนาดสูงทางหลอดเลือดดำ กรณีที่ไม่พบสาเหตุจากการติดเชื้อ เพื่อลดการอักเสบของเส้นประสาทตา ระยะเวลาที่ให้ตั้งแต่ 3 - 7 วัน ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงที่เป็นการตอบสนองหลังได้รับยา รวมถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบ ทั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ หลังจากนั้นจะปรับเป็นยาสเตียรอยด์รูปแบบรับประทาน
2. การเปลี่ยนถ่ายพลาสม่า (plasma exchange) เป็นการนำเอาภูมิคุ้มกันที่ไปทำให้เกิดการอักเสบและสารต่าง ๆ ในเลือดที่ทำให้เกิดการอักเสบของเส้นประสาทตาออกไปจากร่างกาย มักพิจารณาทำในกรณีเส้นประสาทตาอักเสบรุนแรงที่เกิดจากโรค neuromyelitis optica (NMO) หรือโรคที่สัมพันธ์กับการมีภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนชนิด myelin oligodendrocyte glycoprotein (MOG) หรือเส้นประสาทตาอักเสบรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อการได้ยาสเตียรอยด์ขนาดสูงทางหลอดเลือดดำ
ระยะป้องกันการเกิดซ้ำ
ได้แก่ การให้ยากดภูมิ ซึ่งมีทั้งรูปแบบให้ทางหลอดเลือดดำ รูปแบบรับประทาน ทั้งนี้แพทย์ที่รักษาจะเป็นผู้ให้คำแนะนำ
ควรพบแพทย์เมื่อไหร่?
ข้อแนะนำ หากท่านมีอาการข้างต้นที่อาจทำให้สงสัยว่าจะเป็นโรคของเส้นประสาทตาอักเสบควรรีบมาพบแพทย์ทันที
ตรวจสอบโดย : พญ.บุษบา สาธรสุเมธี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ตา ชั้น 4 โซน A
บทความที่เกี่ยวข้อง
โรคเส้นประสาทตาอักเสบคืออะไร?
เส้นประสาทตา (optic nerve) ประกอบด้วยเส้นใยประสาทจำนวนมากที่เชื่อมต่อระหว่างจอประสาทและสมองส่วนที่ควบคุมการมองเห็น จึงเป็นเส้นประสาทที่สำคัญสำหรับการมองเห็น โดยเส้นประสาทตาแต่ละข้างจะทำหน้าที่ส่งสัญญาณภาพจากตาข้างเดียวกันไปยังสมอง ทำให้เรามองเห็นได้
เส้นประสาทตาอักเสบ (optic neuritis) คือภาวะที่เส้นประสาทตามีการอักเสบส่งผลให้มีการเสื่อมของปลอกที่หุ้มเส้นประสาทตา ทำให้การนำสัญญาณประสาทจากตาข้างนั้นไปยังสมองเกิดความผิดปกติ ส่วนใหญ่การอักเสบมักเป็นข้างเดียวมากกว่าสองข้าง
อาการของโรคเส้นประสาทตาอักเสบ
- ปวดตา เวลากลอกตาอาจจะปวดมากขึ้น ผู้ป่วยบางรายอาจไม่มีอาการปวดตา
- ตามัว มักเกิดขึ้นค่อนข้างเร็วในเวลาเป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน ส่วนใหญ่อาการตามัวจะแย่ลงเรื่อย ๆ ระดับที่มัวเป็นไปได้ตั้งแต่มัวเล็กน้อยไปจนถึงมากขนาดมองเห็นแค่แสงลาง ๆ หรือมองไม่เห็นแสงได้ ตำแหน่งที่มัวเป็นไปได้หลายแบบ เช่น มัวทั้งภาพ มัวตรงกลาง มัวครึ่งบนหรือครึ่งล่างของภาพ
- มองเห็นสีจางลง โดยเฉพาะสีแดง
สาเหตุของโรคเส้นประสาทตาอักเสบเกิดจากอะไร?
- ความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ภาวะที่ร่างกายมีการสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาผิดปกติแล้วไปทำให้เส้นประสาทตาและปลอกที่หุ้มเส้นประสาทตาอักเสบ เช่น โรคทางระบบประสาทบางกลุ่ม ได้แก่ โรค multiple sclerosis (MS), โรค neuromyelitis optica (NMO), โรคที่มีความสัมพันธ์กับการสร้างภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนที่อยู่ที่ปลอกหุ้มเส้นประสาทชื่อ myelin oligodendrocyte glycoprotein (MOG)
- ไม่ทราบสาเหตุ
- การติดเชื้อ ได้ทั้งจากเชื้อแบคทีเรีย เช่น ซิฟิลิส วัณโรค ไวรัส เช่น งูสวัด เริม หัด คางทูม เชื้อรา เป็นต้น
- อื่นๆ ได้แก่ โรคแพ้ภูมิตนเอง เช่น SLE ยาบางอย่าง เช่น ยารักษาวัณโรค ethambutol เป็นต้น
การวินิจฉัยโรคเส้นประสาทตาอักเสบ
- ทดสอบความสามารถในการมองเห็นลดลง (visual acuity)
- การทดสอบการมองเห็นสีผิดปกติ
- การทดสอบลานสายตาผิดปกติ
- การตรวจพบการตอบสนองของรูม่านตาผิดปกติ (relative afferent pupillary defect/RAPD)
- อาจตรวจพบขั้วประสาทตาบวมในผู้ป่วยบางราย รวมถึงการตรวจตาไม่พบสาเหตุอื่น ๆ ที่อธิบายอาการตามัวได้
- ส่งทำเอกซ์เรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าพร้อมฉีดสารทึบรังสีตรวจส่วนของเบ้าตา สมอง และอาจรวมไขสันหลังในผู้ป่วยบางรายจะพบมีการบวมของเส้นประสาทตา สัญญาณของเส้นประสาทตาผิดปกติ และจะเห็นสารทึบรังสีได้ชัดผิดปกติในส่วนที่มีการอักเสบของเส้นประสาทตา
แนวทางการรักษาโรคเส้นประสาทตาอักเสบ
- ตรวจหาสาเหตุโรคเส้นประสาทตาอักเสบ ได้แก่ เจาะเลือด เอกซ์เรย์ปอด เจาะน้ำไขสันหลังโดยเฉพาะผู้ที่เป็นโรคนี้ครั้งแรก
ระยะแรก
1. การให้ยาสเตียรอยด์ขนาดสูงทางหลอดเลือดดำ กรณีที่ไม่พบสาเหตุจากการติดเชื้อ เพื่อลดการอักเสบของเส้นประสาทตา ระยะเวลาที่ให้ตั้งแต่ 3 - 7 วัน ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงที่เป็นการตอบสนองหลังได้รับยา รวมถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดการอักเสบ ทั้งนี้อยู่ในดุลยพินิจของแพทย์ หลังจากนั้นจะปรับเป็นยาสเตียรอยด์รูปแบบรับประทาน
2. การเปลี่ยนถ่ายพลาสม่า (plasma exchange) เป็นการนำเอาภูมิคุ้มกันที่ไปทำให้เกิดการอักเสบและสารต่าง ๆ ในเลือดที่ทำให้เกิดการอักเสบของเส้นประสาทตาออกไปจากร่างกาย มักพิจารณาทำในกรณีเส้นประสาทตาอักเสบรุนแรงที่เกิดจากโรค neuromyelitis optica (NMO) หรือโรคที่สัมพันธ์กับการมีภูมิคุ้มกันต่อโปรตีนชนิด myelin oligodendrocyte glycoprotein (MOG) หรือเส้นประสาทตาอักเสบรุนแรงที่ไม่ตอบสนองต่อการได้ยาสเตียรอยด์ขนาดสูงทางหลอดเลือดดำ
ระยะป้องกันการเกิดซ้ำ
ได้แก่ การให้ยากดภูมิ ซึ่งมีทั้งรูปแบบให้ทางหลอดเลือดดำ รูปแบบรับประทาน ทั้งนี้แพทย์ที่รักษาจะเป็นผู้ให้คำแนะนำ
ควรพบแพทย์เมื่อไหร่?
ข้อแนะนำ หากท่านมีอาการข้างต้นที่อาจทำให้สงสัยว่าจะเป็นโรคของเส้นประสาทตาอักเสบควรรีบมาพบแพทย์ทันที
ตรวจสอบโดย : พญ.บุษบา สาธรสุเมธี
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ตา ชั้น 4 โซน A
บทความที่เกี่ยวข้อง